วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร


เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานจัดการกับข้อมูล ข่าวสาร หรือที่เรียกว่าสารสนเทศ ศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศาสตร์ที่ใหม่มาก และมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในสามศาสตร์หลัก (เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีนาโน เทคโนโลยีชีวภาพ) ที่ถูกกล่าวว่าจะมีผลต่อสังคมในอนาคตมากที่สุด โดยปัจจุบัน มีผู้กล่าวถึง เทคโนโลยีสารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง โดยเราจะรู้จักกันทั่วไปในชื่อสั้นๆ ว่า ไอที (IT) รัฐบาลไทยเองก็เล็งเห็นความสำคัญด้านนี้มาก จึงมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้ขึ้น ชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือเรียกย่อๆ ว่า กระทรวงไอซีที

เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีลักษณะเด่นคือมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวัน เช่น เราจะเห็นว่ามีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย มีการส่งอีเมล์ มีการท่องเว็บต่างๆ มีการส่งข้อมูลผ่านเว็บ มีการเล่นเกมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวกับมือถือ เช่น มีการส่งข้อมูลผ่านทางมือถือ มีการดาวโหลดข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเพลงผ่านมือถือ มีการสืบค้นข้อมูลหรือเล่นเกมผ่านมือถือ เป็นต้น ในทางอุตสาหกรรมก็มีการนำระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยเพิ่มผลผลิตในโรงงาน ช่วยควบคุมดูแลเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กระบวนการผลิตเป็นแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้มีการนำสารสนเทศไปใช้ในงานด้านธุรกิจเพื่อทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้ทันทีทั้งข้อมูลที่เป็นรายละเอียดและข้อมูลสรุป และช่วยในการสนับสนุนการตัดสิน บริษัทที่ทันสมัยทุกบริษัทต้องมีระบบสารสนเทศภายในองค์กร ในยุคต่อไป คอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลง มีความเร็วสูงขึ้น และมีหน่วยความจำมากขึ้น และที่สำคัญ ราคาของคอมพิวเตอร์จะถูกลงมาก ดังนั้นคอมพิวเตอร์จะเข้ามามีบทบาทในสังคมของเรามากขึ้น โดยเราจะเรียกสังคมนี้ว่าสังคมยูบิคิวตัส (Ubiquitous) คือคอมพิวเตอร์อยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นการจัดการข้อมูลสารสนเทศที่เกิดจากคอมพิวเตอร์เหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศภายในบริษัทก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริษัทหรือองค์กรใหญ่จำเป็นต้องมีหน่วยงานด้านการจัดการระบบสารสนเทศ ปัจจุบันในโลกของธุรกิจ มีธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากมาย ซึ่ง นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดก็คือ นักธุรกิจด้านไอที ซึ่งความจริงนี้แสดงให้เห็นว่า ไอทีได้เป็นศาสตร์ที่รับความสนใจและมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบันและต่อไปในอนาคต

วิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่านการฟังเพลงสากล

วิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่านการฟังเพลงสากล
(How to improve your English by listening to music)

สมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น Ipod มือถือ หรือ เครื่องเล่น mp3 ในรูปแบบต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ไปแล้ว แต่เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า เราได้อะไรจากสิ่งเหล่านี้บ้าง นอกจาก ความผ่อนคลาย (Relaxation) และความบันเทิง (Entertainment) หลายคนคงสงสัยแล้วละสิ ว่า เราสามารถจะประยุกต์การฟังเพลงให้เกิดประโยชน์กับเราในการฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างไร
สำหรับวิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่านการฟังเพลงนั้น เราจะต้องเริ่มต้นด้วยการหาเนื้อร้อง (Lyrics) ของเพลงนั้นๆ โดยสามารถหาเนื้อร้องได้จากหลายๆวิธีด้วยกัน เช่น

ค้นหาจาก Google – เพียงแค่พิมพ์ชื่อเพลง ชื่อนักร้อง และคำว่า “lyrics” เท่านี้เอง ก็จะพบกับลิงค์เว็บไซต์ต่างๆที่มีเนื้อเพลงเหล่านี้อยู่ เช่น เราต้องการหาเพลงของ Beyonce ชื่อ If I were a boy ก็ให้พิมพ์ keywords ลงไป ดังนี้ “beyonce if I were a boy lyrics”

ค้นหาจาก Youtube – เป็นวิธีที่อยากจะแนะนำกับเพื่อนๆทุกคน เนื่องจากเนื้อเพลงบนวิดีโอนั้นจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามคำร้อง เพียงแต่วิธีนี้ อาจจะไม่มีเพลงที่เรากำลังหาอยู่ และสำหรับวิธีค้นหา ก็ทำได้เช่นเดียวกับการค้นหาใน Google นั่นก็คือ หากเราต้องการหาเพลงของ Eminem ชื่อ Lose yourself ก็ให้พิมพ์ keywords ลงไปในช่องค้นหาของ youtube ดังนี้ “eminem lose yourself lyrics”

ดาวน์โหลด plugin สำหรับ media player ทั้งหลายมาไว้ในเครื่อง – หน้าที่ของ plugin เหล่านี้ คือ การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการเนื้อเพลงต่างๆแล้วดึงมาแสดงผลที่อีกหน้าต่างของ player นั้นๆ ซึ่งเพื่อนๆสามารถดาวน์โหลด plugin เหล่านี้ได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้เลย โดยนอกจากการแสดงเนื้อร้องเพลงอังกฤษต่างๆแล้ว ยังแสดงเนื้อร้องเพลงไทยอีกด้วย จึงนับว่าเป็นโปรแกรมที่ต้องมีในเครื่องคอมพิวเตอร์เราเลยก็ว่าได้!! 

หลังจากที่ได้เนื้อร้องภาษาอังกฤษมาแล้วก็ถึงเวลาฝึกฝนกัน โดยวิธีดังต่อไปนี้ สิ่งที่แนะนำให้ทำควบคู่ไปด้วยเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ

1. ฟังเพลงโดยไม่ดูเนื้อร้องสักสองสามรอบ แล้วพยายามจับประโยคเนื้อร้องภาษาอังกฤษนั้นให้ได้มากที่สุด

2. ร้องเพลงตามเนื้อร้องหลายๆรอบ จนมั่นใจว่าเราจำเนื้อร้องภาษาอังกฤษท่อนต่างๆนั้นได้แล้ว

3. ฝึกร้องเพลงโดยไม่อ่านเนื้อร้อง หากยังจำเนื้อร้องภาษาอังกฤษไม่ได้ให้ย้อนกลับไปดูเนื้อร้องอีกครั้งหนึ่ง 



 เขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษออกมาให้ได้มากที่สุดพร้อมไปกับการฟังเพลงนั้นในครั้งแรก โดยอาจจะให้โอกาสตัวเอง 2-3 ครั้ง เพื่อดูว่าเราจับใจความไหนได้บ้าง และเพื่อที่จะได้วิเคราะห์ได้ว่า เหตุใดเราถึงจับประโยคเหล่านั้นไม่ได้

  แปลเนื้อร้องทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมีความหมายถูกต้อง 100% แต่ขอให้แปลแบบที่เราสามารถเข้าใจได้และความหมายไม่เพี้ยนก็พอ และหากเจอศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย ก็ให้ลองค้นหาความหมายของคำนั้นจาก dictionary

  ดูโครงสร้างประโยคต่างๆที่ใช้ในเนื้อเพลง หากต้องการฝึกการสร้างประโยคภาษาอังกฤษในรูปแบบต่างๆ เราสามารถที่จะไล่ดูทีละประโยคในเนื้อร้องว่า มีการใช้รูปแบบประโยคอย่างไร เช่น If I were a boy even just for a day, I'd roll out of bed in morning เป็นประโยคที่มาจากโครงสร้าง If + Past Simple, would + V.1 เป็นต้น

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุขไปกับการฝึกภาษาอังกฤษนะคะ ยังไงๆก็อย่าลืมเลือกใช้เพลงที่เราชอบด้วยล่ะ เพราะกว่าเราจะแกะเนื้อร้องภาษาอ้งกฤษออกได้ เราอาจจะต้องฟังเพลงนั้นไปจนเบื่อเลยก็ว่าได้ โชคดีค่ะ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล www.dek-eng.com